8 มินิโปรเจคเตอร์ ยี่ห้อไหนดี

Mini Projector เป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ เช่น ดูหนัง ปาร์ตี้คาราโอเกะ เล่นเกม และจัดการประชุมต่างๆ มินิโปรเจคเตอร์หลายรุ่นสามารถเชื่อมต่อกับ iPhone หรือสมาร์ทโฟนได้ สามารถใช้โทรศัพท์ Android ได้ และหลายรุ่นยังมาพร้อมกับ Android ในตัวอีกด้วย เพื่อให้คุณดาวน์โหลดแอปที่ต้องการรับชมได้ในบทความนี้ เราได้นำเสนอวิธีการเลือกโปรเจ็กเตอร์ขนาดเล็กให้กับคุณ พร้อมคำแนะนำจากเกมเมอร์ และยังมีโปรเจ็กเตอร์ขนาดเล็กอีกด้วย จากแบรนด์ยอดนิยม ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำเพื่อช่วยคุณเลือกโปรเจ็กเตอร์ขนาดเล็กให้เหมาะกับการใช้งานที่คุณต้องการ พร้อมได้ภาพที่สวยงามคมชัด

HORIZON Pro

นี่คือมินิโปรเจ็กเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการจัดอันดับนี้ มาพร้อมเทคโนโลยีการฉายภาพ DLP และมีชิปประมวลผลภาพใน X-VUE 2.0 Engine พร้อมระบบ AI ที่ปรับแสงให้สว่างยิ่งขึ้น รวมถึงรองรับ HDR 10 และ HLG บวกกับความสว่างในการฉายภาพ 2,200 ANSI Lumens แม้เปิดหน้าต่างไว้ก็ยังสามารถฉายภาพได้สว่างและคมชัด สิ่งสำคัญที่สุดคือ มีความละเอียด Native 4K UHD ขอบเขตสี 110% DCI-P3 และรองรับขนาดการฉายภาพตั้งแต่ 30 – 300 นิ้ว เช่นเดียวกับโปรเจ็กเตอร์โรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก

ขับเคลื่อนโดยระบบปฏิบัติการ Android TV 10.0 พร้อม RAM ขนาด 2GB และพื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุด 32GB ดาวน์โหลดใบสมัครได้ตามใจคุณ แถมสามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหลอีกด้วย นอกจากนี้ยังรองรับการสั่งงานด้วยเสียงด้วย Google Assistant ผ่านรีโมทคอนโทรล และมี Chromecast ในตัวสำหรับดึงภาพจากอุปกรณ์ไร้สาย นอกจากนี้ยังมีโหมดเกมที่ช่วยลดความล่าช้าของอินพุตสูงสุด 35ms ด้วย MEMC 60Hz เสริมด้วยลำโพงจากระบบ Harman Kardon ดีทีเอส สตูดิโอ ซาวด์

ViewSonic รุ่น M2e

เป็นอีกหนึ่งโปรเจ็กเตอร์ขนาดเล็กที่ตอบโจทย์คำว่า “มินิ” อย่างแท้จริง เพราะมีขนาดเล็ก กะทัดรัด และน้ำหนักเบา อีกทั้งยังมีน้ำหนักเพียงประมาณ 1 กิโลกรัม และใช้วัสดุที่แข็งแรงและทนทานในการผลิตตัวเครื่อง เสริมด้วยสีเมทัลลิกเพิ่มความหรูหรามีระดับ ที่สำคัญมีขาตั้งด้านหน้าตัวเครื่องสามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อปรับมุมการฉายภาพให้กว้างขึ้น ข้อควรพิจารณาคือรุ่นนี้ไม่มีระบบ Android TV และมีแอปจากแบรนด์ให้ดาวน์โหลดได้ไม่กี่แอป

ความละเอียดสูงสุดที่สามารถฉายได้คือ Full HD 1080p รองรับการฉายภาพ 3 มิติ ขนาดหน้าจอที่รองรับคือ 24 – 100″ พร้อมเทคโนโลยีการฉายภาพ LED พิเศษ เช่น Cinema SuperColor+™ ซึ่งแสดงขอบเขตสีที่ครอบคลุม 125% ระดับ Rec.709 สีของการฉายภาพจึงแม่นยำและสมจริงโดยไม่ผิดเพี้ยน อีกทั้งยังมีพอร์ตการเชื่อมต่อที่สมบูรณ์อีกด้วย รวมถึง HDMI, USB-A, การ์ด microSD, USB-C นอกจากนี้ยังมีลำโพงสเตอริโอคุณภาพดีจาก Harman Kardon ด้วยกำลังขับ 6W

wanbo รุ่น T6 Max

โปรเจ็กเตอร์ขนาดเล็กนี้ขายได้นับพันเครื่องบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ด้วยไฮไลท์อย่าง Native Resolution, Full HD 1080p, ความสว่าง 550 ANSI Lumens, ระบบฉายภาพ LCD พร้อมรองรับเทคโนโลยี HDR10+ แสดงแสงและสีที่สมจริงยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีระบบโฟกัสอัตโนมัติพร้อมเลนส์เคลือบกระจก โฟกัสได้ชัดเจนและแม่นยำไม่เบลอ เสริมด้วยดีไซน์พิเศษ ให้แหล่งกำเนิดแสงหมุนรอบเลนส์ กระจายความร้อนได้ดีขึ้น

คุณสมบัติที่น่าสนใจอีกอย่างของรุ่นนี้คือมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android TV 9.0 ที่ได้รับการรับรองจาก Google เสริมด้วย RAM ขนาด 2GB และพื้นที่เก็บข้อมูลขนาด 16GB ทำให้การทำงานราบรื่นไม่สะดุด ดูสตรีมมิ่งเนื้อหาจากแอพต่างๆ ในระดับ Full HD ด้วยรีโมทคอนโทรลอัจฉริยะที่ควบคุมด้วยเสียงจาก Google Assistant ลำโพงเป็นระบบสเตอริโอที่มีกำลังขับ 10W สำหรับอินเทอร์เน็ต ให้เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi Dual Band 2.4/5GHz

Xiaomi รุ่น Mi Smart Projector 2

ในเรื่องความคุ้มค่าเราต้องยกให้ Xiaomi รุ่นนี้ใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการ Android TV ที่ได้รับอนุญาต มาพร้อมกับ Google Assistant การสั่งงานด้วยเสียงผ่านรีโมทคอนโทรล และ Chromecast Built-in สำหรับการส่งหน้าจอจากสมาร์ทโฟนหรือแล็ปท็อปของคุณไปยังโปรเจ็กเตอร์ รุ่นนี้ฉายภาพด้วยระบบ DLP ความละเอียด Full HD 1080p รองรับ HDR10 สามารถรับชม Netflix, Disney Hotstar+, Amazon Prime, HBO Go และอื่นๆ อีกมากมายด้วยความชัดระดับ Full HD

ความสว่าง 500 ANSI Lumens รองรับการฉายภาพได้ตั้งแต่ 60 – 120″ พร้อมระบบ Autofocus และการปรับรูปสี่เหลี่ยมคางหมูอัตโนมัติ ไม่ต้องหมุนเลนส์หรือปรับด้วยรีโมทให้เมื่อยล้า เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi Dual Band และมี Bluetooth 5.0 สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไร้สายยังมาพร้อมลำโพงสเตอริโอ 10W ระบบเสียง Dolby Audio™ ฟังคอนเทนต์เสียงได้เต็มประสิทธิภาพ

XGIMI รุ่น Elfin

ถือเป็นมินิโปรเจ็กเตอร์อีกเครื่องที่น่าสนใจมาก ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ทรงสี่เหลี่ยม บางมาก และหนักเพียง 900 กรัม ก็ติดตั้ง จัดเก็บ หรือพกพาไปใช้ที่อื่นได้ง่าย มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android TV 10.0 รับรองโดย Google โดยตรง มี RAM 2GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 16GB เพื่อการใช้งานที่ราบรื่น ดูเนื้อหาบนแอปสตรีมมิ่งได้อย่างชัดเจนด้วย Chromecast ในตัว ฉายภาพจากสมาร์ทโฟนของคุณขึ้นบนหน้าจอได้ทันที

ส่วนเทคโนโลยีการฉายภาพก็คือ DLP มีความละเอียดในการฉายภาพ Full HD 1080p และรองรับไฟล์ที่มีความละเอียดสูงสุด 4K ความสว่างสูงสุดถึง 800 ANSI Lumens มันยังพิเศษอีกด้วย มีชิปประมวลผลภาพ X-VUE Engine 2.0 ในตัว รองรับ HDR 10+ และ MEMC 60Hz แสดงสีและเงาที่สมจริง แถมภาพยังเนียน กรอบไม่ทับกันจนเบลอ นอกจากนี้ยังมีโหมดเกมที่ลดความล่าช้าของอินพุตให้เหลือเพียง 26.5 มิลลิวินาทีเท่านั้น

BenQ รุ่น GV30

โปรเจ็กเตอร์ขนาดเล็กจาก BenQ มีจุดเด่นอยู่ที่ดีไซน์ตัวเครื่องที่สามารถปรับมุมการฉายภาพได้ด้วยการหมุนขึ้น-ลงได้ 135 องศา ความละเอียดในการฉายภาพเป็นแบบ HD 720p เทคโนโลยี DLP ผสมผสานกับระบบ CinematicColor แสดงสีที่ 98% Rec 709 ใกล้เคียงกับสีเดิม ความสว่างในการฉายภาพ 300 ANSI Lumens เหมาะสำหรับการฉายภาพในห้องมืดสนิท อีกทั้งยังมีระบบออโต้โฟกัสและการปรับรูปสี่เหลี่ยมคางหมูอัตโนมัติ

ระบบปฏิบัติการของโปรเจ็กเตอร์คือ Android TV 10.0 ซึ่งได้รับอนุญาตอย่างแท้จริง คุณสามารถดาวน์โหลดแอพได้ตามต้องการ สั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant และยังมี Chromecast Built-in ส่งสัญญาณหน้าจอไร้สายจากสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือโน้ตบุ๊กได้ทันทีโดยไม่ต้องต่อสาย และจุดเด่นอีกอย่างของรุ่นนี้คือระบบลำโพง 2.1 CH ประกอบด้วยทวีตเตอร์ 2 ตัว 8W และซับวูฟเฟอร์ 8W รวม 16W ที่สำคัญรองรับบลูทูธด้วย

wanbo รุ่น T2R Max

มินิโปรเจคเตอร์รุ่นใหม่จาก wanbo ที่มาพร้อมราคาจับต้องได้ จุดเด่นอยู่ที่ระบบระบายความร้อนของเครื่องที่ด้านหน้า ด้วยการออกแบบสไตล์ย้อนยุค ทำให้เป็นรุ่นที่มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รุ่นนี้มีความละเอียด Native ที่ Full HD 1080p รองรับการฉายไฟล์วิดีโอสูงสุด 4K ขนาดของภาพที่ฉายอยู่ระหว่าง 40 – 120″ ด้วยอัตราส่วนภาพ 16:9 และความสว่าง 250 ANSI Lumens รองรับ HDR10 และ HLG รวมถึง MEMC 60Hz เพื่อการแสดงผลที่สวยงามและราบรื่น

รุ่นนี้มีระบบปฏิบัติการ Android TV 9.0 ที่ได้รับอนุญาต คุณสามารถรับชมเนื้อหาสตรีมมิ่งบนแอพต่างๆ ด้วยความละเอียด Full HD ด้วย RAM 1GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 16GB ระบบอาจทำงานไม่ราบรื่นมากนัก เมื่อเทียบกับรุ่นที่มี RAM 2GB อินเทอร์เน็ตจะเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi 2.4GHz เท่านั้น และมี Bluetooth 4.2 ลำโพงเป็นระบบสเตอริโอ กำลังขับรวม 6W และมีน้ำหนักเพียง 1.2 Kg.

SAMSUNG รุ่น The Freestyle

เป็นมินิโปรเจ็กเตอร์ที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามนับตั้งแต่วันเปิดตัว เพราะมันมาพร้อมกับดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยรูปทรงโปรเจ็กเตอร์ทรงกระบอก พร้อมฐานและขาตั้งคู่ที่สามารถหมุนได้ 180 องศา เพื่อให้ผู้ใช้สามารถปรับมุมการฉายภาพของโปรเจ็กเตอร์ได้หลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ยังติดตั้งง่าย เพราะมีระบบปรับสี่เหลี่ยมคางหมูและออโต้โฟกัส กดรีโมทเพียงไม่กี่ขั้นตอนคุณก็พร้อมรับชมได้ทันที ระบบปฏิบัติการคือ TIZEN OS เช่นเดียวกับสมาร์ททีวี SAMSUNG โดยมี Netflix และ Disney Hotstar+ ในตัว

ความละเอียดของภาพที่ฉายคือ Full HD 1080p ฉายภาพขนาดสูงสุด 100″ ด้วยความสว่าง 230 ANSI Lumens ซึ่งถือว่ามีความสว่างค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับราคา ดังนั้น จึงต้องฉายในที่มืดสนิทเท่านั้น จุดเด่นอีกประการหนึ่งคือระบบเสียง Premium 360 Sound ซึ่งส่งเสียงจากโปรเจ็กเตอร์แบบ 360 องศาด้วยลำโพง 5W และยังสามารถใช้ Powerbank เป็นแหล่งพลังงานในการฉายภาพภายนอกหรือเมื่อไฟดับ